“ใครว่ากรุงเทพมีหัวใจแค่ดวงเดียว” 2 โครงการใหม่บนทำเลดีที่สุด จาก PARK ORIGIN

           หากการกลับมาตกหลุมรัก คือ สิ่งที่ทำให้ชีวิตของคุณมีความสุขอีกครั้ง สโลแกนแอบโรแมนติกที่ว่า “คุณจะกลับมาตกหลุมรักกรุงเทพฯ อีกครั้ง” ก็น่าจะทำให้คุณต้องเหลียวหันมามอง เพราะนี่อาจเหมือนการส่งจดหมายรักจาก 2 โครงการไลน์ใหม่อย่าง PARK ORIGIN CHULA - SAMYAN (พาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน) และ PARK ORIGIN RATCHATHEWI (พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี) ของแบรนด์ PARK ORIGIN คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ อีกหนึ่งเซกเมนต์จากค่ายออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้
 

           หลังจากก่อนหน้านี้ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ นำร่องเซกเมนต์ใหม่ภายใต้แบรนด์ PARK ORIGIN คอนโดลักชัวรี่ ที่เน้นเจาะกลุ่ม Young Rich & Success ที่ชื่นชอบ Lifestyle และ Lifestage ในทำเล CBD และ New CBD ด้วยโปรดักส์นำทัพ อย่าง PARK ORIGIN Phayathai (พาร์ค ออริจิ้น พญาไท), PARK ORIGIN PhromPhong (พาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์), PARK ORIGIN Thonglor (พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ) มาแล้ว
 

ใครว่ากรุงเทพมีหัวใจแค่ดวงเดียว

           มาล่าสุดภายใต้แบรนด์ PARK ORIGIN เดินหน้าสร้างสรรค์คอนโดที่ยังคงดีเอ็นเอความเป็นลักชัวรี่ บนสุดยอดทำเลแห่งการอยู่อาศัยใจกลางเมือง ที่พกพาเอกลักษณ์ใหม่ที่กล่าวได้ว่า “ไม่สามารถหาได้จากทำเลไหนอีกแล้ว” ที่มาพร้อมกับความกล้าแตกไลน์โปรดักส์ทีเดียวพร้อมกัน 2 โครงการ อย่าง PARK ORIGIN CHULA - SAMYAN (พาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน) PARK ORIGIN RATCHATHEWI (พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี)
 

           “ใครว่ากรุงเทพมีหัวใจแค่ดวงเดียว 2 ทำเลดีที่สุดใจกลางกรุงเทพ” คือ ประโยคที่น่าจะบอกเล่าตัวตนของ PARK ORIGIN CHULA - SAMYAN และ PARK ORIGIN RATCHATHEWI ได้ชัดเจนที่สุด เพราะนอกจากจะตั้งอยู่บนทำเลที่ดีเทียบได้กับหัวใจของกรุงเทพ และทั้งสองโครงการยังมีองค์ประกอบที่ครบทุกด้านของการใช้ชีวิตในแบบที่ไม่มีใครแพ้ใคร โดยยังคงตอกย้ำความเป็น PARK ORIGIN ตามแนวคิด A Perfect Living Platform ที่ผสานธรรมชาติ เทคโนโลยี สังคมคุณภาพ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านคอนโดที่อยู่ใจกลางอาณาจักรมิกซ์ยูส
 

จุฬา-สามย่าน-ราชเทวี เอกลักษณ์แห่งใหม่ของกรุงเทพ

 

           หากจะให้คำจำกัดความของทำเล จุฬา-สามย่าน-ราชเทวี จุดเด่นที่เหมือนกัน คือ การก้าวเป็น ทำเล New Town ย่านนวัตกรรม แหล่งรวมไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ซึ่งจะขึ้นแท่นเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพ เพราะที่นี่มี ครบทุกด้านของการอยู่อาศัยแห่งเดียว ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการทำงานของคนทุกวัย รวมส่วนผสมแบบยกกำลัง 5 ไว้ในที่เดียว ทั้งความเป็น ย่านธุรกิจ, การศึกษา, การแพทย์, นวัตกรรม, ศูนย์การค้า โดยสามารถสรุปออกมาเป็นประเด็นต่างๆ ได้ดังนี้

• ย่านการศึกษา : ภาพลักษณ์ความเป็นย่านการศึกษา น่าจะเป็นภาพแรกที่นึกถึงของทำเล จุฬา-สามย่าน-ราชเทวี เพราะเป็นศูนย์รวมสถานศึกษาชั้นนำของประเทศอย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ศูนย์กวดวิชาชั้นนำ ด้วยความหลากหลายของสถานศึกษา อีกทั้งยังเป็นจุดสัญจรของนักเรียน-นักศึกษามากที่สุดย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ จึงทำให้ทำเลนี้เต็มไปด้วยสีสันไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น และเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของเหล่าวัยรุ่นใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ
  
  
  
   
• New Business Area แห่งใหม่ : ด้วยโลเคชั่นที่เชื่อมต่อกับ “สีลม-สาทร” ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและแหล่งงานขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ ขณะนี้ทำเลสีลม-สาทร มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างเต็มพื้นที่แล้ว “จุฬา-สามย่าน-ราชเทวี” จึงเป็นส่วนรองรับการขยายของย่านธุรกิจ เมื่อประกอบกับการมาถึงของ New Mixed-Use ขนาดใหญ่บนทำเลนี้ อาทิ AIRA ONE ออฟฟิศเกรด A เกิดใหม่, JRK Tower แนวโน้มการพัฒนาที่ดินราชเทวี และ Samyan-Mintown มิกซ์ยูสขนาด 222,000 ตารางเมตร ที่จะเป็นพื้นที่ค้าปลีก อาคารสำนักงาน และที่พักอาศัย เป็นต้น จากปัจจัยบวกเหล่านี้ส่งผลให้พื้นที่นี้สามารถพัฒนาเป็น New CBD แห่งใหม่ นี่ยังไม่นับรวมศูนย์การค้าต่างๆ ที่มีอยู่เดิม ที่จะกล่าวต่อไป
  
  
  
   
• ศูนย์รวมการค้า : นอกจากโดดเด่นการเป็นย่านการศึกษาแล้ว ทำเลนี้ยังใกล้กับจุดศูนย์รวมห้างสรรพสินค้ามากที่สุดของกรุงเทพฯ ด้วยพื้นที่ของ “สยามสแควร์” แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น จามจุรีสแควร์, I’m Park, ตลาดสามย่าน, สามย่านมิตรทาวน์, วัน แบงค็อก, อาคารสยามกิตติ์, สยามสแควร์วัน, สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี และเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์
  
  
  
   
• ย่านการแพทย์ : นี่เป็นจุดเด่นที่คนส่วนใหญ่มองข้าม เพราะหากพิจารณาจากโลเคชั่นแล้ว พื้นที่ข้างเคียงของ จุฬา-สามย่าน-ราชเทวี นั้นรายล้อมไปด้วยโรงพยาบาลสำคัญมากกว่า 10 แห่ง ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน อาทิ รพ.รามาธิบดี, รพ.ราชวิถี, รพ.พญาไท, รพ.พระมงกุฎฯ, รพ.ตำรวจ
  
  
  
   
• ย่านนวัตกรรมแห่งใหม่ : การมาถึงของโปรเจ็คต์ Chula Smart City ในย่านสวนหลวง-สามย่าน ที่จะพัฒนาพื้นที่กว่า 200 ไร่ ให้กลายเป็นพื้นที่ต้นแบบเมืองสุขภาวะ ต้นแบบสังคเมืองธุรกิจใหม่ และต้นแบบเมืองอัจฉริยะ ประกอบกับอยู่ใกล้หอศิลป์ขนาดใหญ่ จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นถิ่นจุดประกายความรู้และก่อเกิดเป็นย่านนวัตกรรมใหม่
  
  
  
   
• ย่านแห่งการอยู่อาศัยใกล้ชิดพื้นที่สีเขียว : หากมองย้อนไป จุฬา-สามย่าน-ราชเทวี ถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของคนเมืองมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันกลายเป็นศูนย์รวมอาหารการกินมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นในย่านนี้ยังมีพื้นที่สวนสาธารณะที่น่าสนใจอย่าง อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ กินพื้นที่กว่า 29 ไร่ บนเขตสวนหลวง – สามย่าน อีกทั้งทำเลนี้ยังไม่ไกลจากพื้นที่สีเขียวของพระราชวังเดิม และสนามม้าราชกรีฑาสโมสร ซึ่งจะเป็นจุดหย่อนใจและพื้นที่ปอดอันดีของคนในย่านนี้
   

           เรียกว่าความโดดเด่นที่ตอบโจทย์ครบแทบทุกด้านเหล่านี้ ทั้งความเป็น EducationHub + Medical Hub และอยู่ใจกลาง Mixed-Use ที่จะพัฒนาขึ้นใหม่จำนวนมากและหลากหลายรูปแบบ จึงแทบไม่ต้องเดาเลยว่าทำเล “จุฬา-สามย่าน-ราชเทวี” จะเป็น Super CBD ที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และกลายเป็นย่าน Young Generation Area ของกรุงเทพอย่างแท้จริง
 

ฮับการเดินทาง จากตะวันออก-ตะวันตกสู่ใจกลางเมือง
 

           นอกจากความครบเครื่องในเรื่องการเป็นที่อยู่อาศัย และความเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่แล้ว สิ่งที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลย คือ ในอนาคตอันใกล้ “จุฬา-สามย่าน-ราชเทวี” จะกลายเป็นโครงข่ายการเดินทางที่เชื่อมโยง 4 ทิศของกรุงเทพเข้ามาสู่ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย จากการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าถึง 4 สาย (ได้แก่ BTS สายสีน้ำเงิน, BTS สายสีเขียว, MRTสายสีส้ม, Airport Link)

           ยิ่งการมาถึงของรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันออก (คาดว่าเริ่มเดินรถในปี 2566) ที่มีความยาวกว่า 23 สถานีใต้ดินและ 7 สถานีลอยฟ้า (เชื่อมต่อสองทิศระหว่าง ช่วงประชาสงเคราะห์-ตลิ่งชัน และช่วงศูนย์วัฒนธรรม-สุวินวงศ์) จะมาเป็นเส้นทางเชื่อมเมืองฝั่งตะวันตก-ตะวันออก ของกรุงเทพฯ รองรับการเดินทางของคนทิศตะวันตก-ตะวันออก ซึ่งจะเป็นรถไฟฟ้าสายเดียวที่ลำเลียงคนจากทิศต่างๆ เข้ามาสู่ใจกลางเมืองถึงสยามได้โดยตรง โดยประมาณการว่าจะสามารถขนส่งคนได้มากกว่า 50,000 คน / ชม. / ทิศทาง ด้วยบทบาทนี้เองรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งอิทธิพลให้ทำเลรอบเส้นทางรถไฟฟ้าคึกคัก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน (BTS สุขุมวิท)
 

ครบทุกด้านแห่งการอยู่อาศัยเหนือระดับ ไร้การเชื่อมต่อ
 

ที่ PARK ORIGIN CHULA - SAMYAN และ PARK ORIGIN RATCHATHEWI
 

            ด้วยเอกลักษณ์ของทำเลที่ยากจะหาที่ไหนเหมือนนี้เอง เมื่อบวกกับความลักชัวรี่ในสไตล์ PARK ORIGIN การเปิดตัวของ PARK ORIGIN CHULA - SAMYAN และ PARK ORIGIN RATCHATHEWI จึงกล้าพูดได้ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมที่น่าจับตามองมากที่สุดบนทำเลนี้ ตั้งแต่ฟังก์ชั่นของโครงการทั้งสอง ที่มีการดีไซน์ห้องใหม่กับเพดานสูงถึง 4.2 ม. ทั้งโครงการ โซนที่พักอาศัยสูงที่สุดมอบทั้งวิวฝั่งจุฬาฯ และแม่น้ำเจ้าพระยา Auto Smart Parking 100% และมอบความเป็นส่วนตัวเพียง 2xx ยูนิต
 

            ทั้งนี้ PARK ORIGIN CHULA - SAMYAN ตั้งอยู่ตรงข้ามจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ติดถนนใหญ่ พระราม 4 เดินทางสะดวกยิ่งกว่ากับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้ถึง 4 สาย (MRT สายสีน้ำเงิน - BTS สายสีเขียว -MRT สายสีส้ม - Airport Link)
 

            ส่วน PARK ORIGIN RATCHATHEWI โดดเด่นด้วยโลเคชั่นที่ใกล้ MRT ราชเทวี Interchange แห่งเดียวที่เชื่อมต่อทั้ง 4 ทิศของกรุงเทพ เพียง 1 สถานีถึง Airport Rail Link ใกล้แหล่งสถานศึกษาและโรงพยาบาลมากมาย
 

            พบกับ PARK ORIGIN เจเนอเรชั่นใหม่บน 2 ทำเลที่ดีที่สุดนี้ได้ สนใจดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/2XrDJOb โปรโมชั่นโทร 063 196 0333 ในราคาเริ่มต้นที่ 5.X ล้านบาท